Learning Log (นอกห้องเรียน) ครั้งที่ 12
ทักษะการฟัง
การสื่อสารในชีวิตประจำวันนั้นการฟังนับว่าเป็นทักษะที่สำคัญทักษะหนึ่ง
เป็นทักษะที่ใช้กันมากและเป็นทักษะแรกที่ต้องฝึกเพราะผู้พูดจะต้องฟังให้เข้าใจเสียก่อนจึงจะสามารถพูด
อ่านหรือเขียนได้ ทักษะการฟังจึงเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการเรียนรู้ทักษะอื่นๆ เราสามารถฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษได้หลากหลายวิธี
เช่น การฟังข่าวต่างประเทศ ฟังเพลงสากล ฟังนิทานภาษาอังกฤษ เป็นต้น ในสัปดาห์นี้
ดิฉันเลือกฝึกทักษะการฟัง โดยการฟังเพลงและฟังนิทาน ซึ่งดิฉันคิดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เราเรียนรู้ภาษาอังกฤษและสามารถนำไปฝึกทักษะได้ดี
เพราะเป็นกิจกรรมที่สนุก อีกทั้งยังช่วยให้เราได้ผ่อนคลายอีกด้วย
ในการฝึกทักษะนอกห้องเรียนครั้งนี้
ดิฉันเลือกที่จะพัฒนาทักษะการฟัง เพราะดิฉันอยากพัฒนาการฟังให้มากขึ้น
ดิฉันจึงฝึกโดยการฟังเพลงสากล ซึ่งเพลงที่ดิฉันเลือกคือเพลง You Are My Sunshine Cover by Lindsay
Marie
เหตุผลที่ดิฉันเลือกฟังเพลงนี้เพราะว่าเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองไพเราะ
ฟังแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และเพลงนี้จะใช้คำศัพท์ที่ไม่ยากเกินไป
ดิฉันเริ่มฝึกโดยการหาเนื้อเพลงมา แล้วฝึกอ่านออกเสียงคำศัพท์ที่อยู่ในเนื้อเพลง
ซึ่งดิฉันฝึกอ่านอยู่ 2 รอบ หลังจากนั้นดิฉันก็ฟังเพลงประมาณ 3
รอบเพื่อจับทำนองของเพลงว่าเพลงมีทำนองแบบไหนเพื่อที่จะได้ร้องถูก จากนั้นก็เปิดเพลง
และฝึกร้องตามโดยดูเนื้อเพลงไปด้วย 5 รอบ จากที่ดิฉันดูเนื้อเพลง สังเกตได้ว่าในบางประโยคจะมีความหมายโดยนัย
อย่างเช่น ประโยคที่ร้องว่า You are my sunshine, my only sunshine.(เธอคือแสงสว่างของฉัน เธอคนเดียวเท่านั้น) ซึ่ง sunshine ในบริบทนี้ไม่ได้สื่อถึงแสงอาทิตย์ แต่เขาจะสื่อถึงแสงสว่าง และยังมีอีกประโยคหนึ่ง ที่ร้องว่า You
make me happy when skies are gray (คุณทำให้ฉันมีความสุข
แม้ในวันที่ฟ้าหม่นหมอง) ซึ่ง gray (สีเทา)
จะบ่งบอกถึงความไม่สดใส ความหม่นหมอง
และดิฉันไปค้นคว้าเพิ่มเติมในเรื่องของสีที่ใช้บอกความรู้สึกได้
นอกจากสีเทาแล้วยังมีสีอื่นๆอีกมากมายที่ใช้สื่อถึงความรู้สึก เช่น สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน
จะสื่อถึงความเศร้า หดหู่, สีแดง แสดงถึงอาการอาย โกรธ ร้องไห้
เพราะหน้าจะแดง ตาจะแดง, สีเขียวของชาวต่างชาติ จะเป็นการสื่อถึงการอิจฉาริษยา
, สีเหลือง แสดงถึงความกลัว การขี้ขลาด , สีชมพูไม่ว่าชาติไหนๆสีชมพูก็จะสื่อถึงความรัก ความสุข, สีดำ จะสื่อถึงความลึกลับ ความน่ากลัว ความมืดมน และวันถัดมาดิฉันได้ฝึกทักษะการฟัง
โดยการฟังนิทานเรื่อง The Shepherd
Boy and The Wolf จาก YouTube ดิฉันฟังนิทาน 2 รอบโดยไม่ดูซับไตเติ้ล
หลังจากฟังแล้วดิฉันก็ฝึกอ่านออกเสียง โดยดูจากซับไตเติ้ล
แล้วอ่านไปทีละประโยคจนจบเรื่อง ซึ่งนิทานเรื่องนี้ใช้คำศัพท์ไม่ยากเกินไปและใช้เวลาฝึกไม่นาน
ซึ่งนิทานเรื่องนี้มีภาพประกอบจึงทำดูน่าสนใจ และยังให้ข้อคิดอีกด้วย “ไม่มีใครเชื่อคนโกหก แม้ว่าคนๆนั้นจะพูดจริงก็ตาม”
ทักษะการฟังเป็นทักษะที่สำคัญอันดับต้นๆ
เพราะถ้าเราฟังได้ จับสำเนียงได้และเริ่มเข้าใจ เราก็สามารถต่อยอดในทักษะอื่นๆได้อย่างดี
การฝึกทักษะไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง การพูด การอ่าน
หรือการเขียนเราจะต้องฝึกซ้ำๆและฝึกอย่างสม่ำเสมอ ในการฝึกทักษะภาษาอังกฤษที่ดีนั้น
เราควรฝึกจากกิจกรรมที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ อ่านนิยาย
เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการฝึกทักษะได้และฝึกได้ดีอีกด้วย จากการฝึกทักษะการฟังมาหลายสัปดาห์
ดิฉันรู้สึกว่าฟังภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น สิ่งที่ได้จากการฝึกทักษะการฟังครั้งนี้คือ
ได้ฝึกการฟัง ฝึกการออกเสียง ได้รู้คำศัพท์ใหม่ๆ
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ที่มีความหมายโดยนัย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสีที่สื่อถึงความรู้สึก
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสำนวนภาษาอังกฤษ และได้ฝึกการแปลอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น