Learning Log (นอกห้องเรียน) ครั้งที่ 2
กลยุทธ์ในการเรียนภาษา
ในปัจจุบันภาษาอังกฤษเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตคนเราเป็นอย่างมาก
เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการศึกษา
ด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำต่อเรามาก เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารให้เข้าใจในแนวทาง
จากความสำคัญของภาษาอังกฤษ ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนในภาษาอังกฤษในระบบที่หลากหลายลักษณะ
คือ มีโรงเรียนสองภาษา หรือ โรงเรียนสามภาษา จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทําให้สามารถเข้าถึงสื่อได้หลาย
รูปแบบซึ่งล้วนแต่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพทางด้านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
เช่น สื่อโทรทัศน์ มีรายการภาคภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ
สามารถฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษได้หลายรายการเช่น รายการข่าว
News line เป็นต้น
การศึกษานี้เป็นการศึกษานอกระบบนั่นเอง การศึกษานอกระบบเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเรียนภาษาอังกฤษอีกด้วย ในขณะที่ประเทศได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆมากขึ้น แต่คุณภาพมาตรฐานในเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษก็ยังคงมีปัญหา นั่นคือ ผู้เรียนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ภาษาอังกฤษดีพอที่จะฟัง พูด อ่าน เขียน ในขั้นที่จะสามารถนำไปใช้การได้จริงๆ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้คนส่วนมากก็จะมุ่งไปที่ปัจจัยภายนอกของผู้เรียน จะโทษครูผู้สอนว่าขาดความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษาหรือไม่ก็โทษสถานศึกษาว่าจัดหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษน้อยเกินไป ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ประสบความสำเร็จนั้น มีปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดก็คือตัวผู้เรียนเอง ภาษาจะแตกต่างจากวิชาอื่นๆ นั่นคือผู้เรียนจะต้องมีทั้งความรู้(ทฤษฏี)และทักษะ(ปฏิบัติ) ดังนั้นจุดมุ่งหมายในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่จะให้ได้ผลดีนั้นผู้เรียนต้องมีความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ซึ่งการสอนจะ เน้นทักษะสัมพันธ์และมุ่งบูรณาการทักษะทางภาษาทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยเราจะต้องใช้กลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษมาใช้ในการฝึกทักษะทางภาษา
การศึกษานี้เป็นการศึกษานอกระบบนั่นเอง การศึกษานอกระบบเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเรียนภาษาอังกฤษอีกด้วย ในขณะที่ประเทศได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆมากขึ้น แต่คุณภาพมาตรฐานในเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษก็ยังคงมีปัญหา นั่นคือ ผู้เรียนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ภาษาอังกฤษดีพอที่จะฟัง พูด อ่าน เขียน ในขั้นที่จะสามารถนำไปใช้การได้จริงๆ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้คนส่วนมากก็จะมุ่งไปที่ปัจจัยภายนอกของผู้เรียน จะโทษครูผู้สอนว่าขาดความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษาหรือไม่ก็โทษสถานศึกษาว่าจัดหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษน้อยเกินไป ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ประสบความสำเร็จนั้น มีปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดก็คือตัวผู้เรียนเอง ภาษาจะแตกต่างจากวิชาอื่นๆ นั่นคือผู้เรียนจะต้องมีทั้งความรู้(ทฤษฏี)และทักษะ(ปฏิบัติ) ดังนั้นจุดมุ่งหมายในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่จะให้ได้ผลดีนั้นผู้เรียนต้องมีความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ซึ่งการสอนจะ เน้นทักษะสัมพันธ์และมุ่งบูรณาการทักษะทางภาษาทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยเราจะต้องใช้กลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษมาใช้ในการฝึกทักษะทางภาษา
กลยุทธ์การเรียนหรือกลวิธีการเรียน
( Learning
Strategies) นับเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเรียนภาษาเป็นอย่างมาก เพราะกลวิธีในการเรียนเปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นและมี
ทิศทางในการเรียนของตนเอง กล่าวโดยสรุปคือ กลยุทธ์การเรียนเป็นวิธีการสอนที่ใช้เทคนิคการสอนมาช่วยในการจัดการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพ
ซึ่งการเรียนภาษาอังกฤษจะต้องมีทั้งความรู้และทักษะ
ความรู้เราสามารถเรียนในห้องเรียนได้ แต่ทักษะเราจะต้องฝึกฝนด้วยตนเอง ในการฝึกฝนทักษะด้วยตนเองให้สัมฤทธิผลนั้น
เราจะต้องมีการวางแผนการใช้กลยุทธ์ในด้านทักษะต่างๆ ดังนี้ เริ่มแรกเราควรกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
ว่าจะสามารถทำอะไรได้แค่ไหน ภายในเวลาเท่าไร และต่อไปเราก็ต้องหาสื่อหรือแหล่งความรู้ที่อำนวยความความสะดวกต่อการฝึกทักษะด้วยตนเอง
และ ขั้นต่อไปคือการพัฒนากลยุทธ์ในการเรียน
ซึ่งผู้เรียนแต่ละคนจะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป แต่จะกล่าวแบบกว้างๆ ดังนี้ กุลยุทธ์การเรียนภาษาอังกฤษมีองค์ประกอบ
10 ประการ ได้แก่ 1. การศึกษา
ในการเรียนภาษาต้องมีความรู้ในเรื่องของคำศัพท์และไวยากรณ์ก่อน
และควรรู้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของภาษา สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2.
ฝึกฝน ในการเรียนภาษาอังกฤษจะต้องฝึกฝนให้ผู้เรียนทำแบบซ้ำๆ
จนผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างดี การฝึกภาษาจะต้องผ่านทักษะในการใช้ภาษาทั้ง4ด้าน
คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน 3. การสังเกต ผู้ที่เรียนทางด้านภาษาจะต้องเป็นคนที่ช่างสังเกต
และมีความรอบคอบในการใช้ภาษา 4. จดจำ การเรียนภาษาจะต้องอาศัยการจดจำและการท่องจำด้วย
5. เลียนแบบ การเรียนภาษาต้องอาศัยการเลียนแบตลอดชีวิต 6. ดัดแปลง
ต้องดัดแปลงให้เข้ากับวัตถุประสงค์ในการใช้ภาษาในสถานการณ์ต่างๆ 7.
วิเคราะห์ จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับศัพท์ ระดับโครงสร้างและระดับถ้อยความ
8. ค้นคว้า ต้องมีการค้นคว้าอยู่เสมอ 9.ใช้งาน นำความรู้และทักษมาใช้
เพื่อดูว่าเราสามารถนำมาประยุคใช้ในสภาพความเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด 10.
ปรับปรุง เมื่อเรารู้ข้อบ่งพร่องของเราแล้วก็นำมาปรับปรุงแก้ไข และไปทดสอบอีกครั้ง
เพื่อดูการพัฒนาการใช้ภาษาของตัวเองในด้านนั้นๆ การรู้จักใช้กลวิธีในการเรียนที่เหมาะสมจะมีผลต่อการเรียนภาษาเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งองค์ประกอบทั้งสิบของกลยุทธ์ในการเรียนภาษานี้
ถ้าเราฝึกอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว
ภาษาอังกฤษมีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของเรามากขึ้น
ความเจริญก้าวหน้าทางด้านระบบการศึกษามากขึ้นก็จริง แต่ทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนไทยยังอยู่ในระดับที่ต้องปรับปรุงเมื่อเปรียบเทียบกับศักยภาพของนักศึกษาชาติอื่นๆ
กล่าวคือนักเรียนไทยได้เรียนภาษาอังกฤษแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำไปใช้ในสถานการณ์จริง
จะใช้ภาษาอังกฤษไม่เป็น ทั้งนี้เราไม่ควรที่จะโทษปัจจัยภายนอกแต่เพียงอย่างเดียว
แต่เราควรมองตัวเราก่อน และควรพัฒนาตัวเองในการเรียนภาษาอังกฤษ
ซึ่งเข้าใจว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ยาก แต่ในยุคปัจจุบันนี้มีใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารกับคนต่างชาติทั่วโลก
ซึ่งถ้าเราไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยจะทำให้เราเสียเปรียบทั้งในเรื่องของการศึกษาและเรื่องของการประกอบอาชีพ
ดังนั้นการการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจึงต้องเน้นการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเป็นหลัก
โดยใช้ทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ ทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้และทักษะที่ได้นั้นไปใช้ในสถานกาณ์จริงได้
ในการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆเราต้องใช้กลยุทธ์ในการเรียนภาษามาช่วย เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ง่ายและเร็วขึ้น
ซึ่งที่กล่าวไปทั้ง 10 ประการ คือจะมี 1. การศึกษา 2. ฝึกฝน 3. การสังเกต 4. จดจำ
5. เลียนแบบ 6. ดัดแปลง 7. วิเคราะห์ 8.
9.ใช้งานและ 10. ปรับปรุง
ทั้งสิบองค์ประกอบนี้จะช่วยให้เราใช้ภาษาได้อย่างเป็นระบบระเบียบ
และเราได้รู้ถึงพัฒนาการของตัวเองว่าตัวเรานั้นมีการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆนั้นมากขึ้นเพียงใด
โดยการทดสอบจากการลงมือปฏิบัติจริง และเมื่อเราทดสอบแล้วถ้ามีการผิดพลาดตรงไหน ก็นำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อนำไปทดสอบอีกครั้ง
การปฏิบัติเช่นนี้จะทำให้เราเป็นคนช่างสังเกตและรอบคอบ
ซึงเป็นคุณสมบัติหลักของผู้ที่เรียนทางภาษา ในการเรียนภาษาอังกฤษต้องใช้ความพยายาม
ความใฝ่รู้ ดังนั้นเราจะต้องพึ่งตนเองให้มากที่สุดและหาความรู้หรือกลวิธีในการเรียนภาษาอยู่เสมอ
จะทำให้เรามีความเชี่ยวชาญทางด้านภาษา และสามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น