Learning Log (นอกห้องเรียน) ครั้งที่ 6
ทักษะการฟัง
การฟัง
คือ การรับรู้ความหมายจากเสียงที่ได้ยิน
เป็นการรับสารทางหูการได้ยินเป็นการเริ่มต้นของการฟัง และเป็นเพียงการกระทบกันของเสียงกับประสาทตามปกติจึงเป็นการใช้ความสามารถทางร่างกายโดยตรง
ส่วนการฟังเป็นกระบวนการทำงานของสมองอีกหลายขั้นตอนต่อเนื่องจากการได้ยิน เป็นความสามารถที่จะได้รับรู้สิ่งที่ได้ยิน
ตีความและจับใจความสิ่งที่ได้รู้เข้าใจและจดจำไว้ ซึ่งเป็นความสามารถทางสติปัญญา
กล่าวโดยสรุปแล้ว การฟัง คือ การเข้าใจ การรับรู้ จับประเด็นและแปลความหมายจากเสียงที่เป็นคำพูดสัญญาณต่างๆ
ที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง จะเห็นได้ว่า
การสื่อสารในชีวิตประจำวันของคนเราจะใช้การฟังมากกว่าทักษะอื่นๆ
การฟังเป็นความสามารถในการรับรู้ในสิ่งที่ได้ยินแล้วสามารถตีความหมายหรือจับใจความสำคัญจากสิ่งที่เราได้รับรู้นั้น
สามารถเข้าใจและจดจำไว้ได้ การฟังสารผ่านสื่อเป็นปัจจัยสำคัญของการคิด การพูด
และการเขียน ผู้ที่ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ย่อมส่งเสริมในการคิด การพูด
และการเขียนเกิดประสิทธิภาพไปด้วย กล่าวคือ
เมท่อเราได้ฟังเรื่องราวที่หลากหลายจากสื่อต่างๆ จะทำให้เราเกิดความลึกซึ้ง
กว้างขวาง มีเหตุผล การฟังภาษาอังกฤษ ถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด
และพัฒนายากที่สุด
เราจะต้องฝึกให้เกิดความชำนาญและมีความสามารถในการฟังอย่างเข้าใจในสารที่เราได้ฟัง
โดยเราจะต้องหาเทคนิคในการพัฒนาการฟังของเราเอง
ซึ่งมันจะมีวิธีให้เราเลือกฝึกมากมาย
ซึ่งดิฉันได้เลือกที่จะฝึกการฟังโดยการดูภาพยนตร์ เพราะมันจะได้ทั้งทักษะและความเพลิดเพลิน
ดิฉันได้เลือกพัฒนาทักษะการฟัง
เพราะดิฉันยังด้อยในการฟัง ซึ่งถ้าเราฟังเสียงของเจ้าของภาษาไม่เข้าใจ
จะทำให้เราไม่สามารถตีความหมายได้ว่าเขาจะสื่ออะไรและจะทำให้ลำบากต่อการเรียนภาษาอังกฤษ
ดิฉันได้เลือกพัฒนาทักษะนี้โดยการดูภาพยนตร์
ในการดูภาพยนตร์เราจะได้ทั้งการฝึกทักษะและความสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ
ทำให้เรามีความสนใจในเรื่องนั้นๆมากขึ้น เรื่องที่ดิฉันดูคือ เรื่อง Romeo and Juliet เพราะเป็นเรื่องที่ฉันอยากดู
และดิฉันพอจะรู้เรื่องย่ออยู่บ้างแล้ว
ในการฝึกครั้งนี้ดิฉันได้ฝึกทั้งการฟังสำเนียงของเจ้าของภาษา การออกเสียง
ฝึกการเน้นคำของคำศัพท์ต่างๆ ได้เห็นคำแสลงสำนวนที่เข้าใจกันในชีวิตประจำวัน
ซึ่งมันจะต่างจากในหนังสอที่ไม่ค่อยได้ใช้จริงๆในชีวิตประจำวันได้บ่อยหนัก
เพราะในหนังสือมันจะเป็นภาษาแบบทางการและการดูภาพยนตร์ทำให้เราได้คุ้นกับคำศัพท์
และโครงสร้างประโยคที่มีโอกาสได้ใช้งานแบบจริงๆในชีวิตประจำวัน
และถ้าเราฝึกฟังและดูอยู่บ่อยๆ
จะทำให้เราสามารถคาดเดาความหมายของคำศัพท์ใหม่ๆได้อีกด้วย และจะทำให้เราคุ้นกับสำเนียงของเจ้าของภาษาได้มากขึ้น
ในการฝึกทักษะนอกห้องเรียนครั้งนี้
ดิฉันได้ทั้งการฝึกการฟังและการออกเสียง ในการฝึกโดยใช้เทคนิคการดูภาพยนตร์เช่นนี้
ทำให้ฉันได้ทั้งความเพลิดเพลินและการออกเสียง เน้นคำ
ได้เห็นการใช้ประโยคที่เขาใช้กันในชีวิตประจำวัน
การฝึกเช่นนี้จะสามารถทำให้เราฟังเสียงของเจ้าของภาษาได้อย่างเข้าใจ
และสามารถสื่อสารได้อย่าชัดถ้อยคำอีกด้วย
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเราจะต้องตระหนักในเรื่องการฟัง และทักษะอื่นๆอีก
เพราะเราอยู่ในยุคที่เขาใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสารซึ่งกันและกัน ดิฉันคิดว่าเราควรที่จะฝึกทักษะทั้ง
4 ทักษะนี้
เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเข้าใจ
ซึ่งในปัจจุบันมีสื่อในการเรียนรู้มากมายที่เราสามารถเข้าถึงได้ และเรียนรู้ได้
ซึ่งในการฝึกมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าเรามีความพยายามที่จะเรียนรู้ ค้นคว้าหาความรู้มากเพียงไหน
ยิ่งมากจะยิ่งดีต่อตัวเราเอง
เพื่ออนาคตที่ดีของเราและของประเทศชาติของเราจะพัฒนาสู่ความเจริญก้าวหน้าในต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น