วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล

บทที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล

ความสำคัญของการแปล
ในปัจจุบันมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสารเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการเดินทาง , ธุรกิจ , การประชุมสัมมนานานาชาติ ตลอดจนในการศึกษา จึงแสดงให้เห็นว่า ภาษาอังกฤษมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งเป็นภาษาของการปฏิวัติอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีด้วย จึงมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการแสดงและอธิบายความหมาย เพื่อการโต้ตอบระหว่างมนุษย์ทั่วโลก จากการที่การคมนาคมสื่อสารเจริญรุดหน้าไปมาก  การแปลจึงมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีการติดต่อกับต่างประเทศในวงการต่างๆมากขึ้น


การแปล คืออะไร
การแปล คือ การถ่ายทอดความคิดจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง โดยให้มีใจความครบถ้วนตรงตามต้นฉบับทุกประการ ไม่มีการตัดต่อหรือแต่งเติมที่ไม่จำเป็นใดๆทั้งสิ้น

ลักษณะของงานแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่ดี
1. ภาษาไทยที่ใช้ในงานแปลนั้นจะมีลักษณะเป็นธรรมชาติ ไม่ติดสำนวนฝรั่ง ปรับให้เป็นสำนวนไทยตามที่ใช้กันโดยทั่วไป ใช้ศัพท์เฉพาะสาขา และศัพท์เทคนิคได้เหมาะสมครอบคลุมความหมายได้หมด และใช้รูปแบบประโยควรรคตอนตลอดจนสำนวนเปรียบเทียบให้เหมาะสมด้วย
2. สามารถนำต้นฉบับภาษาอังกฤษเทียบเคียงกับคำแปลภาษาไทยได้ เน้นความชัดเจนของภาษาเป็นสำคัญ
3. ใช้การแปลแบบตีความ แปลแบบเก็บความเรียบเรียงและเขียนใหม่ ไม่แปลแบบคำต่อคำ

การให้ความหมายในการแปล
1. การแปลที่ใช้ในรูปประโยคต่างกันแต่มีความหมายอย่างเดียวกัน
2. การตีความหมายจากปริบทของข้อความต่างๆ อาจจะดูจากสิ่งของ รูปภาพ การกระทำตลอดจนสถานภาพต่างๆ

                การวิเคราะห์ความหมาย
สิ่งที่ต้องนำมาใช้ในการวิเคราะห์ความหมาย มีดังนี้
1. องค์ประกอบของความหมาย
1.1 คำศัพท์ คือ คำที่ตกลงยอมรับกันของผู้ใช้ภาษา จะมีคำศัพท์จำนวนมากในการสื่อความหมายซึ่งความหมายของคำแต่ละคำจะเปลี่ยนแปลงไปได้ในบริบทต่างๆตามที่คำนั้นปรากฏอยู่
1.2  ไวยากรณ์ หมายถึง แบบแผนการจัดเรียงคำในภาษา เพื่อให้เป็นประโยคที่มีความหมาย
1.3 เสียง ในภาษาจะมีเสียงจำนวนมาก ซึ่งเป็นเสียงที่มีความหมาย เช่น เสียงสระ เสียงพยัญชนะ นำเสียงเหล่านี้มารวมกันอย่างมีระเบียบ จะทำให้เกิดเป็นหน่วยที่มีความหมาย เรียกว่า คำหรือคำศัพท์
2. ความหมายและรูปแบบ
         ความหมายและรูปแบบมีความสัมพันธ์กันดังนี้
2.1 ในแต่ละภาษา ความหมายหนึ่งอาจจะแสดงออกได้หลายรูปแบบ
2.2  รูปแบบเดียวกันอาจจะมีหลายความหมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริบทเป็น
 3. ประเภทของความหมาย
นักภาษาศาสตร์ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
3.1 ความหมายอ้างอิง ( Referential meaning ) หมายถึงความหมายที่กล่าวอ้างโดยตรงถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งที่เป็นรูปธรรม-นามธรรม หรือเป็นความคิด มโนภาพ
3.2 ความหมายแปล ( Connotative meaning )  เป็นความรู้สึกทางอารมณ์อาจจะเป็นความหมายในทางบวก หรือทางลบได้ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของภาษาและภูมิหลังของบุคคล
3.3 ความหมายตามปริบท ( Contextual meaning มีหลากหลายความหมาย ต้องพิจารณาจากปริบทที่แวดล้อมคำนั้นทั้งหมด                                                                                                                                                 
3.4 ความหมายเชิงอุปมา ( Figurative meaning เป็นความหมายที่เกิดจากการเปรียบเทียบ ผู้แปลจะต้องวิเคราะห์การเปรียบเทียบ โดยแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 3 ส่วนคือ
 1.) สิ่งที่นำมาเปรียบเทียบ ( topic )
 2.) สิ่งที่ถูกเปรียบเทียบ ( illustration )
 3.) ประเด็นของการเปรียบเทียบ ( point of similarity )

การเลือกบทแปล
            เลือกบทแปลตามวัตถุประสงค์ของการสอนแปล เช่น แนวคิดให้แปลงานเขียนประเภทต่างๆ เพื่อให้ได้ซึ่งความหลากหลายของประเภทงานเขียน โดยคำนึงถึงการทำให้ผู้เรียนมีโอกาสตระหนักถึงความบกพร่องในกรแปลของตนเอง

เรื่องที่จะแปล
เรื่องที่จะเลือกมาแปลมีหลายสาขา จะต้องเลือกว่าจะแปลสาขาใด ซึ่งจะทำให้คนมีความรู้ทันสมัย  การแปลจึงควรเลือกหนังสือที่เป็นหลักวิชาที่ยอมรับกันในสาขาวิชานั้นๆ และผู้แปลแต่ละสาขาจะต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษในสาขาวิชาของตนเองด้วย

               


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น