วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แปลนวนิยายเรื่อง : A Little Princess

A Little Princess (เจ้าหญิงน้อย)

ตอนที่1 โรงเรียนในประเทศอังกฤษ
วันหนึ่งในฤดูหนาว สาวน้อยและพ่อของเธอมาถึงลอนดอน ซาร่า ครูว์ อายุ 7 ขวบ เธอมีผมยาวสีดำและตาสีเขียว ซาร่านั่งอยู่ในรถม้าถัดจากพ่อของเธอและเธอมองออกไปนอกหน้าต่างที่บ้านสูงและท้องฟ้ามืด
กำลังคิดอะไรอยู่หรอ ซาร่า? คุณครูว์ถาม “ลูกดูเงียบๆไปนะเขาโอบกอดลูกสาวของเขา
“ฉันกำลังนึกถึงบ้านของเราที่อินเดียซาร่าพูดแดดร้อนและท้องฟ้าสดใส พ่อ...ฉันไม่คิดว่าฉันชอบอังกฤษมากกว่า ” 
ใช่ มันต่างจากอินเดียมากพ่อของเธอพูด แต่ลูกต้องเรียนในลอนดอน และคุณต้องกลับมาอินเดียและทำงาน
ค่ะพ่อ ฉันรู้ซาร่าพูด แต่ฉันต้องการอยู่กับคุณ ได้โปรดมาเรียนกับฉัน ฉันสามารถช่วยคุณด้วยการสอนคุณ
คุณครูว์ยิ้ม แต่เขาไม่มีความสุข เขารักซาร่าตัวน้อยของเขามาก และเขาไม่ได้ต้องการอยู่โดยไม่มีเธอ แม่ของเสียชีวิตแล้วและซาร่าเป็นลูกคนเดียวของเขา พ่อและลูกสาวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงเรียนของคุณมินชินเป็นโรงเรียนสำหรับผู้หญิง และเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ คุณมินชินเป็นหญิงร่างสูงในชุดดำ เธอมองซาร่าและส่งยิ้มอย่างกว้าง
เป็นเด็กที่สวยอะไรอย่างนี้นี้ !” เธอพูดกับคุณครูว์ ซาร่ายืนอย่างเงียบๆ และคุณมินชิน ทำไมเธอพูดอย่างนั้นเธอคิด ฉันไม่สวย ทำไมเธอพูดมัน
ซาร่าไม่สวยแต่พ่อของเธอรวย และคุณมินชินชอบเด็กที่มีพ่อรวยเพราะมันดีสำหรับโรงเรียน และดีสำหรับคุณมินชินเช่นกัน
ซาร่าเป็นเด็กดีคุณครูว์พูดกับคุณมินชิน แม่ของเธอเป็นคนฝรั่งเศส ดังนั้นเธอจึงพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดี เธอชอบการอ่านหนังสือและเธออ่านตลอดเวลา แต่เธอต้องเล่นกับเด็กคนอื่นๆและทำความรู้จักเพื่อนใหม่ด้วยเช่นกัน
แน่นอนคุณมินชินพูด เธอยิ้มอีกครั้ง ซาร่าจะมีความสุขมากที่นี่คะ คุณครูว์
คุณครูว์พักอยู่ในลอนดอนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เขาและซาร่าไปซื้อของกัน เขาซื้อเสื้อผ้าสวยๆและแพงให้ลูกสาวของเขา เขาซื้อหนังสือและดอกไม้สำหรับห้องของเธอ และตุ๊กตาตัวใหญ่พร้อมชุดสวยเช่นกัน
คุณมินชินยิ้ม แต่เธอพูดกับอเมเลียซึ่งเป็นน้องสาวของเธอว่า เงินทั้งหมดนั่นซื้อชุดให้เด็กอายุ 7 ขวบ เธอดูเหมือนเจ้าหญิงน้อย ไม่เหมือนเด็กนักเรียนเลย
เมื่อคุณครูว์ออกเดินทางจากลอนดอน เข้าเสียใจมาก ซาร่าก็เสียใจมากเช่นกัน แต่เธอไม่ร้อง เธอนั่งอยู่ในห้องของเธอและคิดว่าพ่อของเธออยู่บนเรือกลับอินเดียแล้ว
พ่อต้องการให้ฉันมีความสุขเธอพูดกับตุ๊กตาตัวใหม่ของเธอ ฉันรักเขามากและฉันต้องการเป็นลูกที่ดี ดังนั้นฉันต้องมีความสุข มันใหญ่มากและเป็นตุ๊กตาที่สวยมาก แต่แน่นอน มันไม่สามารถตอบได้
ในไม่ช้า ซาร่าก็ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในโรงเรียน เด็กรวยบางคนเป็นเด็กไม่ดี พวกเขาคิดว่าพวกเขาสำคัญ เพราะพวกเขามีเงินและสิ่งของแพงๆมาก แต่ซาร่าต่างจากพวกเขา เธอชอบชุดสวยและตุ๊กตา แต่เธอสนใจคน,หนังสือ และเรื่องเล่ามากกว่า
เธอเล่าเรื่องได้ดีมาก เธอเป็นเด็กที่ฉลาด และเด็กคนอื่นๆชอบฟังจากเธอ เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับกษัตริย์ ราชินี เจ้าหญิงและประเทศยอกเยี่ยมที่ข้ามทะเล
คุณคิดสิ่งนั้นทั้งหมดได้อย่างไรเออเมนการ์ด เพื่อนสนิทของเธอถาม ฉันมีภาพนั้นอยู่ในหัวของฉันซาร่าพูด ดังนั้นมันง่ายต่อการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขา”        
              เออเมนการ์ดผู้น่าสงสาร เธอไม่ฉลาด เธอไม่เคยจำสิ่งที่โรงเรียนได้สอนไป และคุมินชันโกรธเธออยู่เสมอ ซาราช่วยสอนเธออยู่บ่อยๆ เออมี่ ฟังเธอพูด คุณจำหลุย กษัตริย์คนที่ 16ของฝรั่งเศสได้ใช่ไหม ดี นี่เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเขา วันนั้นในปีค.ศ 1792 ..........
               ดังนั้น เออเมนการ์ดเรียนรู้บทเรียนจากจากเรื่องเล่าของซาร่า และเธอรักเพื่อนของเธอมาก แต่ไม่ทุกคนที่เป็นเพื่อนของซาร่า ลาวิเนียเป็นเด็กที่แก่กว่าซาร่า เธอมาก่อนซาร่า ลาวิเนียเป็นเด็กที่รวยที่สุดและสำคัญที่สุดในโรงเรียน แต่พ่อของซาร่ารวยกว่าพ่อของลาวิเนีย ดังนั้น ซาร่าจึงสำคัญกว่าลาวิเนีย ลาวิเนียไม่ชอบให้เป็นแบบนี้
                “โอ้ ซาร่าฉลาดมาก!” ลาวินเนี่ยพูดอยู่บ่อยๆ ซาร่าพูดฝรั่งเศษดีมาก! ชุดของเธอสวยมาก เธอร้องเพลงเพราะมาก และเธอก็รวยมาก แน่นอนว่าคุณมินชินชอบเธอมากที่สุด! ” ซาร่าไม่โต้ตอบเมื่อวาลิเนียพูดสิ่งเหล่านั้น บางครั้งมันไม่ง่าย แต่ซาร่าใจดี เป็นมิตร และเธอไม่ชอบโกรธกับใครๆ

ตอนที่ 2 เหมืองเพชร
3 ปีผ่านไป พ่อของซาร่าเขียนจดหมายถึงซาร่าอยู่บ่อยๆ และเธอได้เขียนจดหมายที่แสดงถึงความรักตอบกลับไปถึงพ่อของเธอ อยู่มาวันหนึ่ง จดหมายที่ดูน่าตื่นเต้นมากก็มาถึง ทุกคนในโรงเรียนต่างก็พูดถึงเรื่องนี้กันทั้งวัน
เพื่อนของฉัน เขียนจดหมายมาหาฉันว่า เขามีเหมืองอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย เมื่อเดือนที่แล้วคนงานของเขาพบเพชรที่นั่น มีเพชรนับพันๆเม็ดอยู่ในเหมืองแห่งนั้น แต่มันต้องใช้เงินมากที่จะนำเพชรขึ้นมา เพื่อนของฉันต้องการความช่วยเหลือ นายหญิงน้อย (เป็นชื่อที่ครูว์ใช้เรียกซาร่า) ฉันจะเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนเหมืองเพชรกับเพื่อนฉัน และวันหนึ่งคุณกับฉันก็จะต้องรวยมากแน่ๆ
ซาร่าไม่สนใจเรื่องเงินเลย แต่เธอสนใจเรื่องเหมืองเพชรที่อินเดียมากกว่า เกือบจะทุกคนที่ยินดีกับซาร่า ยกเว้นแต่ลาวีเนียที่ไม่ยินดีด้วยอย่างแน่นอน
 “ฮุ๊ยหล่อนพูด แม่ของฉันก็มีเพชร คนหลายๆคนเขาก็มีเพชร แล้วมีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับเหมืองเพชรแห่งนี้อีกไหม
แต่มันมีเพชรนับพันๆ อยู่ในเหมืองเพชรแห่งนี้นะ บางทีอาจมีเพชรนับล้านๆ เลยก็ได้ เออเมนการ์ดพูด
ลาวีเนีย หัวเราะ ซาร่าเธอจะใส่เพชรไว้บนผมของเธอตอนทานอาหารมื้อเช้าด้วยหรอ หรือตอนนี้เธอเป็นเจ้าหญิงซาร่าไปแล้ว
ซาร่าโกรธจนหน้าแดง เธอมองไปที่ลาวีเนียด้วยความโกรธ แล้วตอบกลับทันทีว่า บางคนก็เรียกฉันว่า เจ้าหญิงนะ
ฉันรู้ แต่เจ้าหญิงเขาจะไม่โกรธและไม่พูดหยาบคายหรอกนะ
ฉันจะไม่พูดอะไรกับเธออีกแล้วลาวีเนียซาร่าพูด
สำหรับฉัน คุณคือเจ้าหญิงเออเมนการ์ดพูดต่อจากซาร่าและคุณดูเหมือนเจ้าหญิงในชุดสวยๆของคุณตลอดเวลา
ซาร่าก็เป็นเจ้าหญิงเหมือนกัน แต่ยังมีผู้หญิงอีกคนที่แตกต่างจากพวกเธอมาก เธอคือเบคกี้ , เธอเป็นคนรับใช้ในโรงเรียนของคุณมินชินและเธออายุเพียงแค่ 14 ปี แต่เธอทำงานทั้งวันและบางครั้งก็ทำงานข้ามคืน เธอรับภาระทุกอย่างทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทำความสะอาดพื้น รุมไฟ เธอทั้งเหนื่อย  หิว และสกปรกตลอดเวลา ลาวีเนียและซาร่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกจากเบคกี้อย่างมาก
            วันหนึ่ง ซาร่าเข้ามาที่ห้องนอนของเธอ เบคกี้กำลังนอนหลับบนเก้าอี้ของเธอ
            “โอ้! เธอช่างน่าสงสารจัง!” ซาร่าพูด  
เมื่อนั้นเบคกี้ลืมตาและเธอก็สะดุ้งตื่นทันทีเมื่อเห็นซาร่า  โอ้ ซาร่า!” เธอพูด ฉันขอโทษจริงๆ ซาร่า! ฉันนั่งพักแค่ไม่กี่นาทีเองและ……”
          “ไม่ต้องกลัวซาร่าพูด ซาร่ายิ้มอย่างเป็นมิตร เธอแค่เหนื่อยก็เท่านั้น
          “คุณจะไปบอกคุณมินชินหรอเบคกี้ถาม หล่อนกำลังจะลุกขึ้นไปที่ประตู
          “ไม่ใช่นะซาร่าพูด ได้โปรดอย่าไปเลย นั่งพักสักแปบนะ คุณดูเหนื่อยมาก
          “โอ้ ซาร่า ฉันทำไม่ได้หรอก!” เบคกี้พูด คุณใจดีมาก แต่คุณมินชิน…”
          “ได้โปรดซาร่าพูด หล่อนจับมือของเบคกี้ขึ้นมา คุณเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเหมือนฉัน เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ
           และเบคกี้ก็นั่งลงอีกครั้ง และเธอกับซาร่าก็ได้เป็นเพื่อนกัน จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะคุณมินชินไม่ให้เด็กที่มีฐานะร่ำรวยเป็นเพื่อนกับเด็กรับใช้  มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับเบคกี้อย่างมาก เกือบจะทุกวันที่เธอและซาร่ามาพบกันที่ห้องนอนของซาร่า พวกเขาจะมาพบกันแค่ห้าหรือสิบนาทีเท่านั้น เบคกี้จะต้องรู้สึกหิวทุกครั้ง และซาร่าก็มักจะซื้อของกินอร่อย ๆมาให้เธอกิน พวกเรานั่งพูดคุยกันและบางครั้งซาร่าก็จะเล่าเรื่องหลายเรื่องของเธอให้เบคกี้ฟัง เบคกี้ชอบเรื่องที่ซาร่าเล่ามาก
          “โอ้ ซาร่าเบคกี้พูด คุณเล่าเรื่องได้สุดยอดมากเลย! บางทีฉันก็ชอบเรื่องที่คุณเล่ามากกว่าของกินอีกซะอีก”
            หลังจากกลับมาจากห้องของซาร่า เบคกี้รู้สึกดีมากขึ้น ไม่เหนื่อยและไม่หิวอีกด้วย  หลายเดือนต่อมาได้มีงานวันเกิดครบรอบสิบเอ็ดปีของซาร่า เมื่อเรียนเสร็จ ในช่วงบ่ายได้มีงานเลี้ยงใหญ่สำหรับเด็กผู้หญิงทั้งหมดในโรงเรียน
ปาร์ตี้นี้หรูหราเหมาะกับพวกเรานะ คุณมินชินพูดกับเอมีเลียน้องสาวของเธอ แต่มันก็ดูดีสำหรับโรงเรียนด้วย
บ่ายวันนั้นมีคนมาเยือนที่โรงเรียน เขาคือทนายของคุณมินชิน เขาเข้าไปที่ห้องทำงานพร้อมหล่อนแล้วปิดประตู ในห้องเรียนถัดไปนั้นมีเสียงดังจากปาร์ตี้ของซาร่า ทุกคนในที่นั้นมีความสุขสนุกสนาน
แต่ในห้องทำงานของคุณมินชินกลับไม่เป็นอย่างนั้น หล่อนมองทนายอย่างโกรธจัด
 คุณพูดอ่ะไรนะ คุณคูว์ไม่มีเงินหรอ แล้วเหมืองเพชรของเขาล่ะ
ไม่มีหรอกเหมืองเพชรทนายพูด เอ่อ…. มันมีเหมือง แต่ไม่มีเพชรอยู่ที่นั่น
              “แต่….คุณครูว์เขามีเพื่อนดีนะคุณมินชินพูด
            “คุณครูว์มีเพื่อนที่ดีหรอทนายพูด เขาเชิดเงินทั้งหมดของคุณครูว์หนีไปแล้วละมัน
เขาเชิดเงินทั้งหมดของคุณครูว์หนีไป คุณราล์ฟ ครูว์ป่วยและมีไข้ และเมื่อเขารู้เรื่องนี้ เขาก็มีอาการแย่ลง สัปดาห์ต่อมาเขาก็ตาย
           “ตาย!” คุณมินชินตกใจ  แล้วซาร่าลูกสาวของเขาละ? แล้วไหนจะงานเลี้ยงฉลองวันเกิดหรูหรานี่อีกละ
               “ซาร่า ครูว์ ไม่มีเงินหรอกทนายพูด ไม่มีแม้แต่สตางค์เดียว คุณมินชิน
            “หล่อนต้องออกไปจากโรงเรียนของฉันเดี๋ยวนี้คุณมินชินพูดด้วยความโกรธ หล่อนต้องไปบ่ายนี้เลย!”
           “ที่ไหนหละทนายพูด ข้างถนนเหรอ เด็กผู้หญิงอายุเพียง 11 ขวบเนี่ยนะนั่นไม่ใช่ทางที่ดีสำหรับโรงเรียนคุณหรอกนะ คุณมินชิน
            คุณมินชินโกรธจนหน้าแดง
           “คุณจะให้เธอไปอยู่ข้างถนนไม่ได้หรอกทนายพูด เขายืนขึ้นแล้วพูดว่า แต่บางทีเธออาจทำงานให้คุณได้นะ
             ทนายเดินออกไป และคุณมินชินก็เรียกอมาเลียน้องสาวของเธอ ไปพาซาร่า ครูว์ มาที่นี่เดี๋ยวนี้เลยเธอสั่ง
             สองนาทีต่อมา ซาร่ายืนอยู่หน้าคุณมินชิน เธออยู่ในชุดสีฟ้าสวยของเธอ
            “เธอมีชุดสีดำไหม ซาร่าคุณมินชินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
            “มีค่ะ คุณมินชินซาร่าตอบ แต่มันเล็กมาก
            “ไปใส่มาเดี๋ยวนี้ คุณมิชชินสั่ง พ่อของเธอตายแล้ว เหมืองเพชรนั่นก็ไม่มีอีกแล้ว เพื่อนของพ่อเธอก็เชิดเงินทั้งหมดหนีไปแล้วล่ะ เธอไม่เหลือเงินเลยแม้แต่สตางค์เดียว แต่ฉันก็ยังใจดีกับเธอนะ เธอจะมาอยู่บ้านในฉันก็ได้ แต่ต้องอยู่ในฐานะคนรับใช้และต้องทำงานเพื่อแลกกับอาหาร เธอจะต้องนอนในห้องคนรับใช้ที่อยู่ชั้นบน ที่อยู่ถัดจากห้องของเบคกี้

 ตอนที่ 3 สาวใช้คนใหม่
เย็นวันนั้น ในห้องเล็กๆใต้หลังคา ซาร่านั่งลงบนเตียงพร้อมกับชุดสีดำเก่าๆที่เธอใส่ อยู่ เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่สีหน้าของเธอซีดและก็ไม่ได้ลุกไปไหน ไม่พูดอะไรเลยเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
            พอตกดึกประตูถูกเปิดออกอย่างเงียบๆ เบคกี้ชะโงกหน้ามองเข้ามาดู เธอร้องไห้จนตาแดง โอ๊ ซาร่า เธอพูด คนรับใช้ทั้งหมดกำลังพูดเรื่องนี้ ฉันเสียใจ เสียใจจริงๆ!เบคกี้มองไปที่หน้าซีดของซาร่า เธอเริ่มร้องไห้อีกครั้ง เมื่อนั้นเบคกี้วิ่งไปหาซาร่าและจับมือของเธอไว้
            จนในที่สุดซาร่าก็ขยับตัวอย่างช้าๆ เธอหันหน้าแล้วมองเบคกี้ โอ้ เบคกี้ เธอพูดอออกมาแค่นั้น
คืนแรกในห้องใต้หลังคานั้นมันช่างยาวนาน ซาร่านอนไม่หลับ คุณพ่อเสียแล้วเธอพูดขึ้นเบาๆ เธอพูดแบบนี้อยู่หลายรอบ คุณพ่อเสียแล้ว ฉันไม่มีวันได้เจอเขาอีกแล้ว
ในเช้าวันถัดไป ชีวิตใหม่ของซ่าร่าเริ่มต้นขึ้น เธอเรียนรู้การทำความสะอาดพื้นและการสุมไฟ เธอวิ่งขึ้นชั้นบน ลงชั้นล่าง และทำงานทุกอย่างในครัว
            คนทำอาหารคือหญิงร่างใหญ่ เธอโมโหจนหน้าแดง แล้วพูดออกมาว่า เด็กผู้หญิงที่ร่ำรวยด้วยเหมืองเพชร ตอนนี้ต้องกลับกลายมาเป็นสาวใช้เธอมองไปที่ซ่าร่า  เช้านี้ฉันจะทำพายแอปเปิ้ล วิ่งลงไปที่ร้านค้าและซื้อแอ๊ปเปิ้ลมา รีบไปซิ!
            ซาร่าจึงวิ่งไปที่ร้านค้า และแบกถุงแอปเปิ้ลใบใหญ่กลับบ้าน หลังจากนั้นเธอก็ทำความสะอาดพื้นห้องครัว และยกน้ำร้อนขึ้นไปบนห้องนอนทุกๆห้อง
เธอทำงานทุกๆวันตั้งแต่รุ้งเช้าจนดึก เธอยังช่วยงานที่โรงเรียนอีกด้วย
           “คุณพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีคุณมินชินพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดังนั้นคุณไปสอนภาษาฝรั่งเศสแก่เด็กๆได้ แต่อย่าลืมนะว่าคุณเป็นแค่คนรับใช่เท่านั้น
ชีวิตใหม่ในเดือนแรกของซาร่ายากลำบากเหลือเกิน เธอทั้งเหนื่อยและหิว แต่เธอก็ไม่เคยร้องไห้ออกมาเลย คืนหนึ่งในห้องเล็กๆใต้หลังคา เธอคิดถึงพ่อของเธอที่ตายในอินเดียซึ่งมันห่างไกลกันเหลือเกิน
ฉันต้องเข้มแข็งเธอพูด พ่อต้องการให้ตัวฉันเข้มแข็งเสมอ ฉันมีเตียงไว้นอนและมีอาหารกินทุกวัน คนส่วนมากไม่มีอย่างนี้นะ
                ตอนแรกซาร่ามีเพื่อนเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นคือเบคกี้ เธอมาหาซาร่าที่ห้องทุกๆวัน พวกเขาไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เธอช่วยเหลือซาร่าหลายเรื่อง ซาร่าเห็นถึงความเป็นมิตรและรอยยิ้มของเบ็กกี้
เด็กผู้หญิงในโรงเรียนเสียใจกับซาร่า แต่ตอนนี้ซาร่าเป็นคนรับใช้และพวกเขาไม่ควรที่จะเป็นเพื่อนกับคนรับใช้  ลาวีเนียสะใจ ฉันไม่เคยชอบ ซาร่า ครูว์เธอบอกเพื่อนของเธอ
และฉันก็พูดถูกด้วยซิ ว่ามันไม่มีเพชรนั่นเลย
เออเมนการ์ดเศร้าใจมาก เมื่อเธอเห็นซาร่าในโรงเรียน ซาร่าเดินผ่านและไม่พูดอะไรกับเธอเลย เออเมนการ์ดรักซาร่าและต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับซาร่า แต่เธอไม่ฉลาดและเธอไม่เข้าใจอีกด้วย
            เช้าวันหนึ่ง ซึ่งเช้ามาก เออเมนการ์ดลงจากเตียงนอนอย่างเงียบๆ เธอเดินขึ้นไปชั้นบนที่ห้องใต้หลังคา และเปิดประตูห้องของซาร่า
เออเมนการ์ดซาร่าเรียก เธอมาทำอะไรที่นี่เออเมนการ์ด เริ่มร้องไห้ โอ้ ซาร่า บอกฉันหน่อย มันเกิดอะไรขึ้น?” “ทำไมตอนนี้เธอไม่ต้องการฉันเหรอ ?”
            “ฉันต้องการเธอนะซาร่าพูด ฉันต้องการเธอ แต่เธอก็เห็นนี่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว คุณมินชิน ไม่ให้ฉันคุยกับเด็กผู้หญิง แต่ส่วนมากพวกเขาก็ไม่อยากคุยกับฉันอยู่แล้วล่ะ และฉันคิดว่า บางที เธอก็คงไม่อยาก……..”
            “แต่ฉันเป็นเพื่อนเธอนะเออเมนการ์ด ร้องไห้ ฉันจะเป็นเพื่อนเธอตลอดไป และไม่มีใครห้ามฉันได้หรอก
ซาร่าจับมือเออเมนการ์ด ซาร่าดีใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งดีใจและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
ในห้องมีเก้าอีเพียงตัวเดียว ทั้งสองเลยไปนั่งบนเตียงนอน เออเมนการ์ดมองดูรอบๆ ห้อง แล้วพูดขึ้นว่า โอ้ ซ่ารา เธออยู่ในห้องนี้ได้อย่างไรกัน มันทั้งหนาวมากและสกปรกเหลือเกิน
มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกซ่าราตอบ และฉันก็มีเพื่อนอีกมากมาย ห้องข้างๆก็ยังมีเบคกี้อีกด้วยนะ มาดูสิ
            เธอเดินไปที่ใต้หน้าต่าง เมื่อนั้นเธอกับเออเมนการ์ดขึ้นไปยืนอยู่บนโต๊ะ และมองออกไปนอกหน้าต่างที่อยู่บนหลังคาบ้าน ในกระเป๋าเสื้อของซาร่ามีเศษขนมปังอยู่ เธอยื่นมือออกไปนอกหน้าต่างพร้อมๆกับเศษขนมปังเหล่านั้น ดูนี่สิเธอพูด
 หลังจากนั้นไม่นานก็มีนกน้อยสีน้ำตาลบินลงมาเกาะที่มือของซาร่าและเริ่มมันกินขนมปังเหล่านั้น เมื่อนั้นนกน้อยตัวที่สอง ตัวที่สาม และตัวที่สี่บินตามลงมา
             “โอ้ ซาร่า ทำได้ยังไงเนี่ย!เออเมนการ์ดพูด
             “พวกมันรู้ ว่าฉันก็เป็นเพื่อนของมันซาร่าพูด พวกมันก็เลยไม่กลัว บางครั้งพวกมันยังเข้ามาเล่นในห้องฉันด้วยนะ
เออเมนการ์ดมองไปยังหน้าต่างห้องใต้หลังคาถัดไป  ใครอยู่ในบ้านหลังนั้นเหรอเธอถาม
ไม่มีใครอยู่เลยซาร่าพูดอย่างเศร้าใจ ฉันไม่เคยเห็นใครที่หน้าต่างบานนั้นเลย และฉันก็ได้คุยแค่กับนกพวกนี้เท่านั้น
แต่แล้วในคืนหนึ่ง สองหรือสามสัปดาห์ต่อมา เบคกี้เข้ามาที่ห้องของซาร่า เธอดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
            “โอ้ ซาร่า!” เธอพูด ผู้ชายอินเดียกำลังเข้ามาในบ้านหลังถัดไป เขาเป็นคนอังกฤษ แต่เขาอยู่ที่อินเดียมานานหลายปี และตอนนี้เขาจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังถัดไป เขารวยมากและก็ไม่สบายอยู่ด้วย เขาอาจจะเจอเรื่องแย่ๆมา แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร
ซาร่าหัวเราะ เธอไปรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไรซาร่าพูด
            “เธอรู้จักครอบครัวคามิเชลที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามไหมล่ะเบคกี้พูด ฉันเป็นเพื่อนกับแม่ครัวของพวกเขาและหล่อนก็เป็นคนบอกฉันมาเองแหละ คุณคามิเชล เขาเป็นทนายของผู้ชายอินเดียคนนั้น พวกเขาก็เลยรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา

ตอนที่ 4 รามดาสและเจ้าลิงน้อย
ทุกๆเช้า เมื่อซาร่าให้ขนมปังนก เธอมองไปยังหน้าต่างห้องใต้หลังคาถัดไป แต่ไม่มีใครมาเปิดหน้าต่าง ไม่มีใครมาตะโกน อรุณสวัสดิ์หรือยิ้มอย่างเป็นมิตรเลย
บางทีพวกคนรับใช้ของผู้ชายอินเดียคนนั้นอาจจะนอนอยู่ชั้นข้างล่าง เธอคิดอย่างเศร้าใจ
ตอนนี้ ชีวิตของเธอโดดเดี่ยวเหลือเกิน เธอเจอเบคกี้ทุกวันก็จริง แต่พวกเธอก็ไม่มีเวลามากนักที่จะได้นั่งคุยกัน แม่ครัวและคนรับใช้คนอื่นๆก็ดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย บางครั้งในตอนกลางคืน เออเมนการ์ดขึ้นมาที่ห้องของซาร่า แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่เธอจะได้ขึ้นมาบ่อยๆ
ตกเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ซาร่าอยู่ในห้องใต้หลังคา เธอได้ยินเสียงดังมาจากบนหลังคา เมื่อเธอมองขึ้นไปที่หน้าต่างที่เปิดอยู่ มีเจ้าลิงน้อยโผล่เข้ามา
โอ้ เจ้าตัวเล็ก !” ซ่าร่าพูด
ทันใดนั้น เจ้าลิงก็กระโดดลงมาและเริ่มวิ่งไปรอบๆห้อง ซาร่าหัวเราะ เธอยืนขึ้นบนโต๊ะและมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลูกเรือชาวอินเดีย
โอ้ซาร่าพูด ใช่ลิงของคุณหรือเปล่า มันเข้ามาในห้องของฉัน
ลูกเรือชาวอินเดียคนนั้นชื่อรามดาส ลิงตัวนั้นเป็นลิงของเขา เขายิ้มกว้างให้กับซาร่าแล้วพูดว่า
ผมขอโทษจริงๆ ผมขอเข้าไปเอามันออกมาได้ไหม” “โอ้ เข้ามาได้เลยเธอพูด ฉันคิดว่ามันกลัวฉันนะ มันวิ่งเร็วมาก ว่าแต่คุณข้ามหลังคามาได้ใช่ไหม
            “ได้สิรามดาสพูด ไม่กี่นาทีต่อมาเขาเข้ามาในห้องซาร่า เจ้าลิงก็กระโดดมาที่แขนเขาทันที รามดาสพูดขอบคุณซาร่าอยู่หลายครั้ง แล้วเขาก็ออกไป ข้ามกลับไปยังบ้านของเขา ซาร่าไปที่ร้านค้าห้าถึงหกครั้งต่อวัน เวลาที่เธอเดินผ่านหน้าบ้านหลังถัดไป เธอมักจะนึกถึงชายอินเดียอยู่บ่อยๆ เธอรู้สึกสงสารเขา เขาไม่มีแม้แต่ภรรยาหรือครอบครัวเลย ในทุกๆวันจะมีหมอมาที่บ้านของเขา ทนายคาร์มิเชลก็มาเยี่ยมเขาอยู่บ่อยๆและในบางครั้งลูกๆของคุณคาร์มิเชลก็ตามมาเยี่ยมเขาด้วยเช่นกัน
ซาร่ารู้สึกดี ดีนะที่เขายังมีคนมาเยี่ยมในยามที่เขาป่วยอย่างนี้เธอคิด
             ชายอินเดียก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน เขาชอบเด็กๆมาก แต่เขาเป็นผู้ชายที่โชคร้ายมาก คุณคาร์มิเชลและเขาเป็นเพื่อนกัน พวกเขาพูดคุยกันเยอะ แต่พวกเขากลับพูดถึงเพียงเรื่องเดียว
            “ผมต้องการพบเด็กคนนั้นชายอินเดียพูด (เขาชื่อ คาร์ริสฟอร์ด) ผมต้องการพบเธอและดูแลเธอ แต่เธออยู่ไหนล่ะ ผมอยู่นี่และเงินทั้งหมดที่ได้จากเหมืองเพชรก็อยู่กับผม ซึ่งอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินของ ราล์ฟ ครูว์ โฮ! คาร์มิเชล ทำไมฉันถึงทิ้งเพื่อนและหนีมาแบบนี้ในขณะที่ทุกอย่างมันกำลังแย่ ทำไม ทำไม
            ที่คุณต้องหนีเพราะคุณป่วยหนัก คุณคาร์มิเชลพูด มันเกือบจะทำให้คุณตาย คุณจำได้ไหม!”
            “และมันก็ทำให้ราล์ฟตาย!” คุณคาร์ริสฟอร์ดพูด เขานำเงินทั้งหมดของเขามาลงทุนกับผม เพราะผมคือเพื่อนของเขา ในตอนแรกพวกเราหาเพชรไม่เจอเลย เงินของราล์ฟก็หมดไม่เหลือ ผมกลัวไม่กล้าบอกเขา ผมจึงหนีไป ไม่นานราล์ฟก็ตาย เขาหัวเราะอย่างโกรธ ผมช่างเป็นเพื่อนที่กล้าหาญอะไรอย่างนี้!
มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะเป็นคนกล้าหาญในขณะที่คุณกำลังป่วยหนักอยู่อย่างนี้คาร์ริสฟอร์ดมองไปที่กองไฟและพูดว่า รามดาส เล่าเรื่องสาวใช้ที่อยู่ห้องข้างๆมาหน่อยรามดาสเล่าว่า ลิงวิ่งหนีไป เขาจึงข้ามหลังคาไปเอาลิงกลับมาจากห้องเธอ เด็กที่น่าสงสารนอนในห้องใต้หลังคาท่ามกลางความหนาวเย็นและสกปรก เธอต้องทำงานสิบหกชั่วโมงต่อวัน ลูกสาวของราล์ฟก็คงมีชีวิตอย่างนั่นใช่ไหม ผมหยุดคิดเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ
            “สักวันหนึ่งเราจะหาเธอเจอคุณคาร์มิเชลพูด
แล้วเราจะหาเธอเจอได้ยังไงละ คุณคาร์ริสฟอร์ดพูด เขากุมขมับ ผมไม่เคยเจอเธอไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเธอ! บางครั้งราล์ฟเรียกเธอว่า นายหญิงน้อยพวกเราพูดถึงเรื่องเหมืองตลอดเวลา ราล์ฟไม่เคยเล่าถึงชื่อโรงเรียนของเธอเลย แม่ของเธอเป็นคนฝรั่งเศส เขาอาจจะพาเธอไปเรียนที่ฝรั่งเศสหรือไม่ก็ในอังกฤษ
           เอ่อ...ผมรู้ว่ามีเด็กคนหนึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนในปารีส คุณคาร์มิเชลพูด ชื่อคาริว หรือ ครูว์ นี่แหละ ทันทีที่พ่อของเธอตาย ครอบครัวชาวรัสเซียก็พาเธอไปจากพวกเขา เพราะเธอเป็นเพื่อนของลูกสาวพวกเขา บางทีเด็กผู้หญิงคนนี้อาจเป็นลูกของราล์ฟ ครูว์ก็ได้ สัปดาห์หน้าผมจะไปตามหาเธอที่มอสโคว์
           ผมอยากไปกับคุณนะ แต่ผมยังป่วยอยู่ คุณคาร์ริสฟอร์ดพูด ผมจะต้องหาเธอให้เจอ  ในทุกๆคืนผมฝันเห็นหน้าของราล์ฟ ครูว์เสมอ และเขาก็พูดว่า ทอม,ทอม นายหญิงน้อยของฉันอยู่ที่ไหนและฉันก็ไม่มีคำตอบใดๆให้กับเขา นายคาร์ริสฟอร์ดจับมือคาร์มิเชล แล้วพูดว่า ช่วยฉันตามหาเธอนะ ช่วยฉันด้วย
ฤดูหนาวมาถึง กับช่วงเวลาที่แสนสั้นและมืดมน ในห้องใต้หลังคาเหน็บหนาวเหลือเกินไม่มีกองไฟที่อบอุ่นสำหรับสาวใช้ และบ่อยครั้งที่ ซาร่าและเบคกี้นอนไม่หลับเพราะอากาศหนาวมาก ตอนนี้ซาร่าสูงขึ้น ชุดสีดำเก่าๆของเธอจึงดูสั้นมาก รองเท้าก็เก่า และเธอไม่มีเสื้อคลุมสำหรับฤดูหนาวเลย เธอผอมมากเพราะได้กินอาหารไม่มาก และเธอก็หิวอยู่ตลอดเวลา
ซาร่าถือตะกล้าใบใหญ่ท่ามกลางฝนและหิมะ วันหนึ่งเธอพบเงิน 6 เพนนีในหิมะ เธอจึงนำเงินไปซื้อขนมปังร้อนๆมากิน เมื่อนั้นซาร่าเห็นเด็กคนหนึ่งอยู่ที่ประตูของร้านค้า เด็กคนนั้นไม่ใส่รองเท้าและไม่สวมเสื้อคลุม เธอใบหน้าของเธอดูเศร้ากับความเหน็บหนาว
            “เธอดูหิวมากกว่าฉันเสียอีกซาร่าคิด เธอจึงให้ขนมปังกับเด็กคนนั้น
เมื่อเธอกลับมาถึงโรงเรียน คุณมินชินโกรธมาก นี่ ซาร่า แม่ครัวกำลังรอเธออยู่ ทำไมเธอถึงมาสาย?’
ฉันเดินเร็วๆท่ามกลางหิมะไม่ได้หรอก ซาร่าพูด รองเท้าฉันก็เก่าแล้วนะ และฉันก็เย็นเท้ามากด้วย
คุณมินชินไม่ฟังและพูดขึ้นมาว่า หยุดพูดเดี่ยวนี้นะ ฉันใจดีกับเธอ  ให้ที่พักเธออยู่ แต่เธอก็ไม่เคยพูดขอบคุณฉันซักคำ
ซ่าร่ามองคุณมินชินและพูดขึ้นเบาๆว่า คุณไม่ได้ใจดีหรอก และนี่ก็ไม่ใช่บ้าน” “ขึ้นไปที่ห้องเธอเดี่ยวนี้!” มินชินสั่ง
ขณะที่เธอเดินขึ้นบันได เธอเจอลาวิเนีย ลาวิเนียมองซาร่าแล้วหัวเราะเล็กน้อย แล้วพูดว่า โอ้ นี่น่ะเหรอ เจ้าหญิงซ่าร่า ใส่ชุดเก่าๆ รองเท้าสกปรกมอมแมม!”
ในห้องใต้หลังคา ซ่าร่านั่งลงบนเก้าอี้ เธอพูดขึ้นเบาๆว่า ฉันต้องเข้มแข็ง เจ้าหญิงเข้มแข็งเสมอ ดังนั้นฉันก็ต้องเข้มแข็งเหมือนกัน แต่มันไม่ง่ายเลยเธอหนุนแขนตัวตัวเอง โอ้ พ่อยังจำนายหญิงน้อยของพ่อได้ไหม ตอนนี้พ่อมองฉันอยู่หรือเปล่าเธอพูด
และในบ้านหลังถัดไป คุณคาร์ริสฟอร์ดนั่งอยู่ข้างหน้าเตาผิง เมืองมอสโคว์กับลอนดอนอยู่ไกลกันมาก และเขาควรจะรอ แต่เขาก็นึกถึงลูกของราล์ฟ ครูว์ทุกวัน และเขาก็นึกถึงเรื่องเด็กคนคนอื่นด้วย
รามดาส เขาเรียกแล้วถามว่า สาวใช้ตัวเล็กคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง พวกเราช่วยอะไรเธอได้บ้าง
ผมเห็นเธอที่บนถนนทุกวัน ในวันที่ฝนและหิมะตก เธอดูซูบผอมและหิวโหยมาก แต่เราจะช่วยเธอได้อย่างไรนะ ผมไปหาเธอทางหน้าต่างใต้หลังคาได้นะ ฟังนะ....... เขาพูดอย่างคร่าวๆ คุณคาร์ริสฟอร์ด์ยิ้มฮืม....ลุยกันเถอะเขาพูดกับรามดาส

ตอนที่ 5  มนต์วิเศษ
คืนหนึ่งในสัปดาห์ต่อมา เออเมนการ์ดลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆและขึ้นไปยังห้องใต้หลังคา แต่ซาร่าไม่ได้อยู่ที่นั้น เออเมนการ์ดจึงนั่งรอที่บนเตียง ตอน4 ทุ่มซาร่าเดินขึ้นบันไดอย่างช้าๆและเข้าไปในห้อง
เออเมนการ์ดมองไปที่ซาร่า และพูดว่า โอ้ ซาร่า เธอป่วยหรือเปล่า หน้าเธอซีดจังและก็ดูเหนื่อยมากด้วย!”
วันนี้งานมันเยอะมากอ่ะ เออร์มี่ซาร่าพูด แล้วนั่งลง
คุณมินชินโกรธมากเรื่องอาหาร แม่ครัวก็โกรธพวกเราด้วยเช่นกัน ฉันกับเบคกี้ยังไม่ได้ทานอาหารเย็นและดื่มชาเลย
เกิดเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยเหรอเออเมนการ์ดพูดอย่างเศร้าใจ เธอไม่เคยบอกฉันเลย ตอนนี้เธอคงหิวมากเลยใช่ไหม
ซาร่ามองไปที่เออร์เมนการ์ดแล้วพูดเบาๆว่า  ฉันหิว ฉันอยากจะกินโต๊ะนั้น และฉันก็อยากจะกินเธอ
เออเมนการ์ดลุกขึ้นจากที่นั่งทันทีและพูดว่า  ซาร่า ฉันมีกล่องที่ใส่ของมาจากที่บ้านวันนี้ ในนั้นมีเค้กก้อนใหญ่อยู่ ฉันจะไปเอามาให้เดี่ยวนี้เลย เธอกับเบคกี้กินให้หมดละ
ไม่นานเออเมนการ์ดก็กลับมา เด็กหญิงทั้ง 3 คนนั่งบนเตียงของซาร่า พวกเขายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อนั้นเออเมนการ์ดเปิดกล่องและตัดเค้ก
โอ้ ดูนั้นสิเบคกี้พูด
เธอใจดีมาก เออร์มี่ซาร่าพูดแล้วหัวเราะ มันวิเศษมาก เธอว่าไหม เวลาที่มีเรื่องร้ายๆเข้ามา มันก็มักจะมีเรื่องดีๆตามมาเสมอ เรามาปาร์ตี้กันเถอะ!”
เออร์เมนการ์ดแบ่งเค้กให้ซาร่ากับเบคกี้ และพวกเขาก็เริ่มลงมือกินกัน ทันใดนั้นพวกเขาก็หยุดกิน พวกเขาได้ยินมีเสียงเท้าใครบางคนกำลังเดินขึ้นบันได
โอ้ ไม่นะ นั่น คุณมินชินนี่!” เบคกี้พูดอย่างเบาๆ
อือซาร่าพูด หน้าเธอกลับมาซีดอีกครั้ง
เมื่อนั้นประตูถูกเปิดออก คุณมินชินเข้ามามาในห้อง
ลาวิเนียใช่ไหม! เธอดื่มชากับเจ้าหญิงซาร่าเหรอ! เบคกี้กลับไปห้องใต้ของเธอหลังคาเดี่ยวนี้ เธอพูดอย่างโมโห
โอ้ ได้โปรดเถอะ คุณมินชิน!เออเมนการ์ดร้องไห้ และพูดว่า มันคือเค้กที่ฉันเอามาจากบ้าน เราแค่จัดปาร์ตี้กันเท่านั้นเอง
กลับไปที่ห้องของเธอซะ เออเมนการ์ด และเอาเค้กของเธอไปด้วยคุณมินชินพูดอย่างเยือกเย็น และพรุ่งนี้ เธอมองไปที่ซาร่า จะไม่มีอาหารเช้า อาหารเย็น และชาสำหรับคุณ จำเอาไว้!
ในไม่ช้าห้องใต้หลังคาก็กลับเงียบอีกครั้ง สาวใช้ทั้งสองคนต้องนอนทั้งๆที่เหนื่อยและหิวมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานซาร่าก็ลืมตาขึ้น เธอได้ยินเสียงบางอย่างที่ตรงหน้าต่าง
มีบางอย่างแปลกๆชอบกลซาร่าพูด มันคืออะไรกันนะเธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงและมองดูรอบๆห้อง เธอดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อนั้นตาของเธอเปิดกว้าง
ห้องนี้ดูแปลกๆไปมาก มีไฟหลากหลายสี มีผ้าห่มผืนใหม่ที่อบอุ่นอยู่บนเตียงของเธอ และมีรูปภาพสวยๆบนฝาผนัง
ซาร่าลุกจากเตียงอย่างช้าๆ นี่คือความฝันใช่ไหมเธอพูด สิ่งเหล่านี้มาจากไหนกันนะเธอยื่นมือไปแตะไฟและปรากฏว่าไฟร้อน นี่มันไม่ใช่ความฝัน ไฟก็ร้อนฉันรู้สึกได้ และโอ้! ดูที่โต๊ะสิ!
มีเสื้อผ้าสีแดงตั้งอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับถ้วยและจาน มีชาร้อน และของกิน และที่เลิศไปกว่านั้นก็คือพายเนื้อร้อนๆ, แซนวิช, เค้ก, ส้มและแอปเปิ้ล
ซาร่าวิ่งไปที่ห้องของเบ็กกี้ และตะโกนเบาๆว่า เบ็กกี้ มานี่เร็วๆ มนต์วิเศษกลับมาอีกแล้ว มาดูเร็ว
เมื่อเบคกี้เห็นห้องนี้ เธออึ้งมาก และพูดกับซาร่าว่า โอ้ ซาร่า! นี่มันอะไรกัน สิ่งเหล่านี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ฉันไม่รู้ซาร่าพูด มันคือมนต์วิเศษ ตอนแรกฉันคิดฉันฝันไป แต่มันไม่ใช่ ดูพายร้อนๆเหล่านี้สิ เรากินกันเถอะ พายเนื้อนี่ก็ร้อนจัง มันคงไม่ใช่ความฝันหรอก!
พวกเขาได้นั่งกินและดื่มข้างๆเตาผิงโอ้ พายเหล่านี้อร่อยมากเบคกี้พูด รวมถึงชากับเค้กด้วย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคือมนต์วิเศษอะไร แต่ฉันชอบน่ะ
ซาร่ามองรอบๆห้อง โอ้ เบคกี้ดูนั้นซิ! มีหนังสืออยู่ตรงนี้ด้วย ฉันไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้มาก่อนเลยนะ
เธอวิ่งไปที่กองหนังสือแล้วเปิดอ่านเล่มบนสุดที่วางไว้บนกอง มันเขียนถึงที่นี่ด้วยละ!ฟังน่ะ ในหนังสือเขียนไว้ว่า ถึงสาวน้อยในห้องเพดาน จากเพื่อนโอ้ เบคกี้!ซาร่าปิดหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้น นี่ฉันมีเพื่อนเหรอ เบคกี้เธอพูดอย่างช้าๆ มีใครบางคนเป็นเพื่อนของฉัน
เช้าวันถัดมาเบคกี้เจอซาร่าในครัว
โอ้ ซาร่าเบคกี้พูดเบาๆ มีเวทมนต์อะไรอีกไหมเมื่อเช้านี้ หรือมันไปหมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ไม่น่ะมันก็ยังอยู่ซาร่าตอบอย่างเบาๆ ฉันกินพายเนื้อเย็นไปเมื่อเช้านี้และไฟนั้นก็ยังอุ่นๆอยู่เลยนะ!
เบคกี้หัวเราะอย่างมีความสุข โอ้ โอ้!เธอพูด คุณนายมินชินไม่รู้เรื่องนั้นเลย เมื่อซาร่าเข้ามาในห้องเรียน คุณมินชินเห็นซาร่ามีความสุขดี แต่เธอต้องการที่จะเห็นหน้าซีดขาวและดวงตาแดงจากการร้องไห้ของซาร่า เด็กคนนั้นยังยิ้มอยู่ได้ยังไงกันนะเธอครุ่นคิดด้วยความโมโห และเธอจะไม่รู้เรื่องมนต์วิเศษนั้นอย่างแน่นอน
มนต์วิเศษนั้นก็ยังอยู่ ในตอนเย็น เมื่อซาร่าขึ้นเตียงนอน เธอได้พบกับสิ่งใหม่ๆหลายอย่างในห้องใต้หลังคา มีผ้าห่มที่อุ่นผืนสำหรับเธอและเบคกี้ มีรูปหลายรูปบนฝาผนัง มีหนังสือเป็นกองๆ มีรองเท้าหลายๆคู่ และเสื้อกันหนาว ทั้งหมดมันดีมากเลย มีเตาผิงไฟตลอดเวลา และ อาหารค่ำร้อนๆวางอยู่บนโต๊ะ
แต่ทั้งหมดนี้มันมาจากไหนละ?” เบกกี้พูด คืนหนึ่งในขณะที่พวกเขาไนั่งอยู่ข้างเตาผิง ใครเป็นคนทำ?”
เพื่อนคนนั้นเป็นคนทำเองซ่าร่าพูด เป็นเพื่อนที่ใจดีและน่ามหัศจรรย์อีกด้วย แต่เขาคงไม่ต้องการให้พวกเรารู้ชื่อของเขามั้ง
พวกเขาเริ่มมองไปที่หนังสือเหล่านั้น และเบกกี้ก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า
โอ้ ซาร่า มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ตรงหน้าต่าง มันคืออะไรนะ?”
ชาร่าลุกขึ้นมาดู เจ้าลิงนี่เองเธอพูด ลิงมาจากห้องข้างๆนะ เธอเปิดหน้าต่างแล้วลิงก็กระโดดมาลงที่แขนของเธอ โอ้ เจ้าตัวเล็ก ซาร่าพูด เธอคงจะหนาวมากเลยซิน่ะ
เบคกี้ดูท่าทางจะสนใจมาก ฉันไม่เคยเห็นลิงมาก่อนเลยเธอพูด มันดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ แล้วนี่เธอจะทำยังไงกับมันหรอ
นี่ก็ดึกมากแล้วนะซาร่าพูด งั้นคืนนี้ให้มันอยู่ที่ห้องของฉันนี่แหละ แล้วพรุ่งนี้เช้าฉันค่อยพามันกลับบ้านก็แล้วกัน

ตอนที่ 6 หาจนเจอ
เช้าวันถัดมา คนแรกที่มาเยี่ยมบ้านหลังถัดไปก็คือ คุณคาร์มิเชล ซึ่งเขาเพิ่งกลับมาจากรัสเซีย แต่เมื่อเขาเข้าไปในบ้าน สีหน้าของเขาเศร้าเต็มไปด้วยความเศร้า คุณคาร์ริสฟอร์ดรู้คำตอบนั้นได้ทันที
คุณหาเด็กผู้หญิงคนนั้นเจอคุณคาร์ริสฟอร์ดพูด
ผมพบเธอเขาพูด แต่เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนนั้นเธอชื่อเอมิลี่ คาริว และเธอยังเด็กกว่าลูกสาวของ ราล์ฟ คิว เสียอีก ผมเสียใจจริงๆ
เราจะต้องหาที่อื่นคุณคาร์ริสฟอร์ดพูดอย่างเศร้าใจ แล้วที่ไหนล่ะ ตอนนี้ก็สองปีแล้ว สองปีแล้วนะ!”
อือ เธอไม่ได้อยู่ในปารีส ฉันรู้แล้วคุณคาร์มิเชลพูด เราไปหาเธอที่โรงเรียนในลอนดอนกันเถอะ
ไปนายคาร์ริสฟอร์ดพูด เราเริ่มจากโรงเรียนที่อยู่หลังถัดไปนี่แหละ คุณคาร์มิเชล
บางทีมันอาจเกิดเรื่องมหัศจรรย์อีกครั้งก็เป็นไปได้ แต่ในขณะนั้น รามดาสเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ
เด็กหญิงรับใช้ที่อยู่ใต้หลังคาเธอมาที่นี่เขาบอกกับนายคาร์ริสฟอร์ด พร้อมกับลิงตัวนั้น เมื่อคืนมันวิ่งไปที่ห้องเธออีกแล้วคุณอยากเจอเด็กคนนั้นไหม
อือนายคาร์ริสฟอร์ดตอบ ฉันอยากเจอ ไปพาเด็กคนนั้นเข้ามา
และหลังจากนั้นซาร่าก็เข้ามาในห้องและยืนอยู่ตรงหน้าชายอินเดีย เธอยิ้มให้เขา
เมื่อคืนนี้มีลิงเข้ามาในห้องของฉันเธอพูด และฉันว่าจะพามันมาอยู่ด้วย เพราะอากาศหนาวมาก
คุณคาร์ริสฟอร์ดมองดูหน้าเธอด้วยความสนใจ เธอช่างใจดีเหลือเกินเขาพูด
ซาร่ามองไปที่รามดาสตรงประตูแล้วพูดว่า จะเอาลิงของคุณไหม คุณลูกเรือ
เธอรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นลูกเรือคุณคาร์ริสฟอร์ดถาม
ซาร่าจึงตอบว่า โอ้ ฉันรู้จักลูกเรือ ฉันเกิดที่อินเดียคาร์ริฟอร์ดลุกขึ้นทันที อินเดียเหรอ เขาพูด แต่เธอเป็นคนรับใช้ที่โรงเรียนถัดจากบ้านนี้หลังนี้นี่
ค่ะ ตอนนี้ฉันเป็นคนรับใช้อยู่ที่นั่น แต่ในตอนแรกฉันไม่ใช่คนรับใช้หรอกคะซาร่าพูด ชายอินเดียมองคุณคาร์มิเชล และคุณคาร์มิเชลก็มองมาที่ซาร่า
เธอหมายความว่าไง ในตอนแรกตอนเด็กเหรอ”  เขาถาม
ในตอนแรกพ่อของฉันส่งฉันมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี่
แล้วพ่อเธอคือใครคุณคาร์มิเชลถาม
พ่อเสียชีวิตแล้วคะซาร่าตอบเบาๆ เพื่อนของพ่อเชิดเงินทั้งหมดหนีไป ฉันจึงไม่มีเงินไม่มีใครดูแลฉัน จนกระทั่งคุณมินชินให้ฉันไปอยู่ห้องใต้ดินและต้องทำงานเพื่อแลกขนมปัง
ชายชาวอินเดียเดินมาที่เก้าอี้และถามขึ้นว่า พ่อของเธอชื่ออะไร บอกฉันมาซิ
ซาร่ามองหน้าชายผู้นั้นอย่างเศร้าๆ ราล์ฟ ครูว์ เธอตอบ พ่อเสียชีวิตในอินเดียเพราะป่วยเป็นไข้เมื่อสองปีที่แล้ว
คาร์ริฟอร์ดหน้าซีดมาก คุณคาร์มิเชลเขาพูด เด็กคนนี้ เด็กคนนี้!”
วันนี้เป็นวันที่ตื่นเต้นสำหรับคนหลายๆคน ในตอนแรกซารายังไม่รู้เรื่องเรื่องราวทั้ง แต่คุณคาร์มิเชลจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ซาร่าฟัง ไม่ว่าจะเป็นความจริงเกี่ยวกับเรื่องของพ่อของเธอและเหมืองเพชร รวมถึงสองปีที่ผ่านมาที่พวกเขาเฝ้าตามหาลูกสาวของราล์ฟ ครูว์
และตลอดเวลาเธอพูดต่อจากคุณคาร์ริสฟอร์ด เมื่อนั้นพวกเขามานั่งข้างเตาผิง ฉันอยู่บ้านหลังถัดไปนะ
ทอม คาร์ริสฟอร์ดจับมือเธอ อือเขาพูด และคุณก็ไม่ต้องกลับไปที่นั้นอีก ตอนนี้บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของเธอและฉัน  ฉันจะเป็นคนดูแลนายหญิงน้อยของราล์ฟเอง
ซาร่าหัวเราะอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า และคุณก็เป็นเพื่อนของฉันด้วยเช่นกัน
ทุกสิ่งในห้องใต้หลังคาที่คุณและรามดาสทำขึ้นมันดูสวยงามมาก เบคกี้และฉันนึกว่ามันคือมนต์วิเศษ!”
ชายอินเดียยิ้มกับเธอ พวกเราต้องขอโทษเธอด้วยนะเขาพูด รามดาสเข้าไปอย่างเงียบที่สุดและถือข้าวของข้างหลังคาไปในตอนที่คุณไม่อยู่ ฉันตามหาลูกสาวของลาร์ฟไม่เจอ แต่ฉันก็อยากจะช่วยใครบางคน และในตอนนั้นรามดาสก็มาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับสาวใช้ตัวน้อยผู้โดดเดี่ยวในห้องใต้หลังคา
และจากนั้นเรื่องราวจึงจบลงอย่างมีความสุขสำหรับทุกคน เว้นแต่คุณมินชิน ตอนนี้ซาร่าร่ำรวยและคุณมินชินต้องการให้เธอกลับมาที่โรงเรียน เธอมาหาคุณคาร์ริสฟอร์ด แต่เขาโกรธมากกับสิ่งที่เธอทำกับซาร่า และเธอเดินออกไปพร้อมกับใบหน้าที่โกรธเคือง.
เบคกี้ย้ายมาอยู่ในบ้านคุณคาร์ริสฟอร์ดเช่นกัน เธอเป็นคนรับใช้ของซาร่าและเธอก็มีความสุขมาก เธอมีห้องอุ่นๆ เสื้อผ้าดีๆ และอาหารอร่อยๆกินทุกวัน และเธอก็รักซาร่ามากด้วย
เออเมนการ์ดมาหาซาร่าอยู่บ่อยๆและซาร่าสอนบทเรียนที่เรียนจากโรงเรียนให้กับเธออีกครั้ง เออเมนการ์ดไม่ค่อยฉลาดนักแต่เธอก็เป็นเพื่อนแท้ ในวันแรกที่บ้านของชายอินเดีย ซาร่าเขียนจดหมายถึงเออเมนการ์ด และเออเมนการ์ดก็ถือจดหมายไปในห้องเรียน มีเหมืองเพชรอยู่จริงเธอบอกลาวิน่าและเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ มันมีจริงๆมีเพชรเป็นล้านๆอยู่ในเหมืองนั้นและเพชรครึ่งหนึ่งนั้นเป็นของซาร่า ตลอดเวลาที่เธออยู่ในห้องเพดาน ทั้งหนาวและหิว เธอก็ยังดูเหมือนเจ้าหญิง ในและตอนนี้เธอก็เป็นเจ้าหญิงจริงๆแล้วละ!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น